อย่างไรก็ดีเราอาจไม่ได้ดื่มทันทีและอาจจะเก็บไว้นานกว่านั้น และที่สำคัญจะต้องเก็บไว้ในสภาวะที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่ไวน์ทุกชนิดที่เหมาะกับการเก็บ
การเก็บไวน์คืออะไร
แท้จริงแล้วการเก็บไวน์ไม่มีความหมายอย่างเป็นทางการ แต่สามารถตีความหมายได้ว่าคือการเก็บไวน์ไว้เป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งถึงจุดที่ดีที่สุด (การเก็บไวน์ด้วยการลงทุนไม่ได้อยู่ในบทความนี้)
ไวน์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชีวิต และมีการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะถึงจุดที่เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตไวน์ต้องการ
ตามกฎทั่วไปผู้ผลิตไวน์ออสเตรเลียมักผลิตให้ไวน์ของพวกเขาถูกดื่มภายในช่วงปีแรก ในขณะที่ไวน์ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปนต้องการหมักบ่มที่นานกว่า
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าไวน์ขวดไหนจะมีรสชาติที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป - แหล่งข้อมูลแรกที่สำคัญคือหนังสือและรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านไวน์ อาทิ : James Halliday, Robert Geddes, Huon Hook, Peter Bourne และอื่นๆ และแม็กกาซีนที่เชื่อถือได้ เช่น : Decanter, Gourmet Traveller Wine, Winestate, และ บทความจาก Langtons
ลองมาดูคำแนะนำกันว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากไวน์ขาว :
โดยทั่วไป (แต่มีข้อยกเว้นมากมาย) ไวน์ขาวออสเตรเลียจะมีอายุไม่ยาวเท่ากับไวน์แดง ไวน์ขาว Semillon และ Riesling มีอายุยาวกว่า Chardonnay และ Sauvignon blanc ในไวน์ขาวออสเตรเลียทั้งหมมดไวน์ที่มีอายุมากกว่าสิบปีคือ Hunter Valley Semillon (เช่น Braemore โดย A. Thomas, Tower or Tyrell’s), Chardonnays โดย Cullen, Tyrell’s (Vat 47), Leeuwin Estate, Penfolds (Yatarna & Bin 8A), Giaconda, Moss Wood และ Stonier; และ Rieslings โดย Grosset (เช่น Polish Hill), Leeuwin Estate หรือ Leo Buring
ไวน์บอร์กโดซ์จากฝรั่งเศสเป็นการผสมผสานระหว่าง Sauvignon blanc และ Semillon จะสามารถเก็บได้สิบปีหรือนานกว่านั้น อาทิ Domaine de Chevalier, Doizy Daene และหากเป็นไวน์ราคาสูงเช่น Chateau Haut Brion หรือ “Y” โดย d’Yquem หรือไวท์เบอร์กันดี้ : Montrachet โดยไวน์ขาวส่วนใหญ่จะมาจากทุ่ง Rhone Valley เช่นเดียวกับไวน์อิตาเลียน Quintarelli Bianco
โดยสรุปไวน์ขาว เช่นไวน์สำหรับของหวานสามารถเก็บได้หลายปีและจะมีรสชาติที่ดีขึ้นจากการบ่ม โดยเฉพาะไวน์ฝรั่งเศส French Sauternes, Australian de Bortoli Noble One และ Botrytised Semillon ทั้งหมด
ไวน์ขาวโดยทั่วไปจะเก็บได้หลายปี แต่มักจะไม่มีรสชาติที่ดีขึ้นหากเก็บไว้มากกว่าสองปี
ไวน์แดงนั้นมีหลายแง่มุมกว่า :
ตามกฎทั่วไปไวน์ที่มีความไลท์เช่น Pinot noir, Grenache และ Mourvedre จะมีอายุที่สั้นกว่า (ประมาณ 10 ปี) ไวน์ที่มีเนื้อหาหนักเช่น Shiraz, Cabernet and Merlot (เก็บได้ 10 ปี หรือ 50 ปี หรือยิ่งนานยิ่งดี)
Pinot noirs: ในนิวซีแลนด์ จาก Central Otago, Felton Road, Gibson Valley Reserve, Mount Difficulty ออสเตรเลีย Picardy, Giaconda, Domaine A (Tasmania) เบอร์กันดีฝรั่งเศส : Santenay, Vosne Romanée สามารถเก็บได้ยาวนาน เช่นเดียวกับไวน์อื่นๆ จากทุ่ง Rhone Valley
Shiraz: ที่มีชื่อเสียงเช่น Grange ที่มีการบ่มขวดแรกเมื่อปี 1951 ยังคงรสชาติที่อร่อย (แต่ห้ามดูราคา $40,000+ จากราคาป้าย) และไวน์ที่อายุยาวนานเช่น Penfolds' St Henri และ Bin 707, RWT จาก Orlando และ St Hugo, Henshke Henry’s Seven (สุดยอดอัญมณี), the Thomas Kiss shiraz, shiraz viognier จาก Clonakilla และ Meerea Park, หรือ Maurice O’Shea shiraz
Cabernets sauvigno, Franc และ Cabernet Merlots ล้วนเป็นไวน์ที่ยิ่งเก็บยิ่งดี และส่วนมากควรเก็บให้มากกว่า 10 ปี
ไวน์ออสเตรเลียส่วนใหญ่จะมาจาก Margaret River : Cullen Diana Madeline, Moss Wood, Howard Park, Vasse Felix; จาก South Australia: the Penfolds Bin 09, Bin 407, และไวน์ที่ผลิตโดย Clarendon Hills, Wynns John Riddoch; Yarra Valley: Yarra Yarra, Yarra Yerring; Hunter Valley: Lindeman’s St George
ไวน์จากฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะมาจาก Bordeaux จะสามารถเก็บได้เป็นเวลาหลายปี Haut Brion, Domaine de Chevalier, Petrus, Cheval Blanc และอื่นๆ โดยไวน์แดงจาก Bordeaux แถบ Left Bank ไม่ควรดื่มหากเก็บไว้ไม่ถึงสิบปี และอื่นๆ จาก Right Bank เช่น St Émilion / Pomerol (ประมาณปี 2004, 2006 และ 2007) สามารถดื่มได้เลย
จากอิตาลี Cabernet franc โดย Quintarelli (ถ้าคุณมีไว้ในครอบครอง)
โดยสรุป
หนทางที่ดีที่สุดที่จะรู้ได้ว่าไวน์ขวดไหนควรเก็บในระยะเวลานาน คือการสอบถามจากผู้ผลิตหรือผู้ค้าไวน์ เพื่อทราบถึงกระบวนการบ่มและฝึกความอดทนโดยไม่รีบดื่มก่อนเวลาอันควร
โปรดระลึกไว้เสมอว่าไวน์ขาวเกือบทั้งหมดควรดื่มภายในสองปีจากการผลิต แม้แต่ Rosés จากฝรั่งเศส